มทส. ปลื้ม TOP6 ม.ไทย ในอันดับ ม.ชั้นนำประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่

มทส. ปลื้ม TOP6 ม.ไทย ในอันดับ ม.ชั้นนำประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ติดอันดับ TOP6 มหาวิทยาลัยไทยจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำสำหรับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ของ THE สำนักจัดอันดับชื่อดังของโลก เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน เผยผลอันดับล่าสุดนี้สอดรับกับการได้รับการจัดอันดับในกลุ่ม 601-800 ของโลก ก่อนหน้านี้ด้วย ทั้งนี้มีสถาบันอุดมศึกษาจาก 41 ประเทศในกลุ่มนี้เท่านั้นที่ถูกจัดอยู่ใน 300 อันดับแรก ย้ำภาพลักษณ์และพัฒนาการของมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำของไทยที่ก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก (World Class University)

ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) เผยว่าเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2559 สถาบันการจัดอันดับชั้นนำของโลก Times Higher Education หรือ THE ได้ประกาศผลการจัดอันดับสำคัญที่เรียกว่าTimes Higher Education BRICS & Emerging Economies Rankings 2017” หรือ ผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำสำหรับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ (Emerging Economy Country) ประจำปี 2017 ซึ่งในปีนี้ มทส. ได้รับการจัดอันดับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน อยู่ในอันดับที่ 192 โดยเป็นอันดับที่ 6 ของประเทศ ติดอันดับร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทยอีก 8 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

การจัดอันดับ Times Higher Education BRICS & Emerging Economies Rankings สำหรับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในปีนี้ THE ได้ทำการจัดอันดับสถาบันอุดมศึกษาจาก 48 ประเทศ แบ่งประเภทโดยสถาบัน FTSE (http://www.ftserussell.com) ซึ่งมีประเทศสมาชิกที่สำคัญ ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกาใต้ เปรู ชิลี โคลัมเบีย สาธารรัฐเชค ฮังการี มาเลเซีย อินโดนีเซีย เม็กซิโก โปแลนด์ ตุรกี และไทย เป็นต้น ทั้งนี้ มีสถาบันอุดมศึกษาจาก 41 ประเทศในกลุ่มนี้เท่านั้นที่ถูกจัดอยู่ใน 300 อันดับแรกของการจัดอันดับ 

 

การจัดอันดับดังกล่าว เป็นการวัดความเข้มแข็งของสถาบันอุดมศึกษาในทุกภารกิจหลัก ได้แก่ การสอน การวิจัย การถ่ายทอดความรู้ และภาพรวมของความเป็นนานาชาติ โดยวิธีการวัดและจัดอันดับมีความระมัดระวังในการคำนวณ เพื่อให้เกิดการสะท้อนคุณลักษณะและพัฒนาการของมหาวิทยาลัยในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเศรษฐกิจ ค่าน้ำหนักคะแนนจะมีสัดส่วนสูงในด้านการเชื่อมโยงของมหาวิทยาลัยกับภาคอุตสาหกรรมและการเป็นนานาชาติมากขึ้น โดยใช้ 13 ตัวบ่งชี้ จาก 5 ด้าน เช่นเดียวกันกับที่ใช้ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกประจำปี 2016-2017 (Times Higher Education World University Rankings 2016-2017)  ได้แก่ 1) Teaching:     The learning environment คุณภาพการสอน สภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ของผู้เรียน และสัดส่วนจำนวนอาจารย์ต่อนักศึกษา ใช้อ้างอิง 30% 2) Research: Volume, Income and Reputation คุณภาพงานวิจัย ปริมาณ รายได้ และชื่อเสียงของงานวิจัย 30% 3) Citations: Research Influence การอ้างอิงในงานวิจัย การนำงานวิจัยของสถาบันไปใช้ 20% 4) International Outlook: Staff, Students and Research ความเป็นนานาชาติ บุคลากร นักศึกษา และงานวิจัยระดับนานาชาติ 10% และ 5) Industry Income: Knowledge Transfer รายได้ทางอุตสาหกรรม การถ่ายทอดความรู้ที่เป็นสิ่งใหม่ในวงวิชาการที่มหาวิทยาลัยได้คิดค้นขึ้น 10%

“ถึงแม้ว่าลำดับของ มทส. จะลดลงจาก 159 ในปี 2016 เป็น 192 ในปี 2017 แต่ มทส. มีผลรวมของการดำเนินการตาม indicators ของ THE เพิ่มขึ้นจาก 19.9 เป็น 20.4 โดยเฉพาะตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับ Citation ที่แสดงถึงคุณภาพผลงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ระดับนานาชาติ และ International Outlook ที่แสดงถึงความเป็นนานาชาติของมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ อันดับของ มทส. ในการจัดอันดับครั้งนี้ ยังสอดรับกับอันดับที่อยู่ในกลุ่ม 601-800 ของโลก ที่ประกาศเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงศักยภาพความเข้มแข็งทางด้านวิชาการและพัฒนาการของมหาวิทยาลัย ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพสูงในระดับสากล อีกทั้งยังแสดงถึงความสำเร็จในการเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำของไทยและของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจใหม่ในโลกที่กำลังพัฒนา (Developing World) พร้อมก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก (World Class University)”  อธิการบดี มทส. กล่าวในที่สุด

ที่มา: https://www.timeshighereducation.com/world-university-rankings/2016/brics-emerging-economies#!/page/0/length/25


ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง