มทส. ติดอันดับ 7 ของมหาวิทยาลัยไทย ที่ตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสารวิทยาศาสตร์คุณภาพสูง ตามการจัดอันดับของ Nature Index 2021
มทส. ติดอันดับ 7 ของมหาวิทยาลัยไทย
ที่ตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสารวิทยาศาสตร์คุณภาพสูง
ตามการจัดอันดับของ Nature Index 2021
Nature Index 2021 เผยผลการจัดอันดับการตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสารวิทยาศาสตร์คุณภาพสูงในเครือ Nature Research โดยในปีนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ติดอันดับที่ 7 ของมหาวิทยาลัยไทยในภาพรวม แต่หากเรียงลำดับตามจำนวนบทความที่มีผู้เขียนเป็นพนักงาน มทส. อยู่ในอันดับที่ 4 ของไทย สำหรับอันดับกลุ่มสาขา พบว่า กลุ่มสาขา Life Sciences อยู่ในอันดับที่ 4 กลุ่มสาขา Physical Sciences อยู่ในอันดับที่ 7 ส่วนกลุ่มสาขา Chemistry อยู่ในอันดับที่ 26 ของไทย
รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ อธิการบดี มทส. เผยว่า "จากการประกาศผลการจัดอันดับของ Nature Index 2021 ที่พิจารณาจากผลการตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสารวิทยาศาสตร์คุณภาพสูงในเครือ Nature Research จำนวน 82 ชื่อ โดยเป็นบทความที่ตีพิมพ์ ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2020 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2021 มีจำนวนบทความวิจัยที่มีผู้เขียนเป็นพนักงาน มทส. (Count) ทั้งสิ้น 30 บทความ และมีจำนวนสัดส่วน หรือส่วนแบ่งความเป็นเจ้าของบทความที่จัดสรรให้กับสถาบันหรือประเทศ (Share หรือ Fractional Count: FC) เท่ากับ 1.56 โดย มทส. มีค่า FC สูงสุดในสาขา Life Sciences (FC=1.08) รองลงมาเป็น สาขา Physical Sciences และ Chemistry ตามลำดับ แต่หากพิจารณาบทความที่มีผู้เขียนเป็นพนักงาน มทส. พบว่า สาขา Physical Sciences มีจำนวนสูงสุด 26 บทความ รองลงมาเป็นสาขา Life Sciences และChemistry จำนวน 3 และ 2 บทความตามลำดับ ทั้งนี้ วารสารที่ตีพิมพ์บทความของผู้เขียนที่เป็นพนักงาน มทส. มากที่สุดถึง 12 บทความ คือ Journal of High Energy Physics รองลงมา เป็นวารสาร European Physical Journal C ตีพิมพ์บทความของผู้เขียนที่เป็นพนักงาน มทส. 8 บทความ” ดังแสดงในรูปที่ 1 และ 2
รูปที่ 1 จำนวนบทความตีพิมพ์และจำนวนสัดส่วน/ส่วนแบ่งความเป็นเจ้าของบทความของ มทส.
รูปที่ 2 จำนวนบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารต่าง ๆ
สำหรับความร่วมมือของผู้แต่ง มทส. กับผู้แต่งอื่น เป็นความร่วมมือในระดับนานาชาติถึงร้อยละ 85.94 และหน่วยงานความร่วมมือในประเทศและต่างประเทศ 10 อันดับแรก แสดงได้ดังรูปที่ 3 และ 4
รูปที่ 3 ความร่วมมือของผู้แต่ง มทส. กับผู้แต่งที่เป็นชาวไทยและชาวต่างชาติ
รูปที่ 4 ความร่วมมือของผู้แต่ง มทส. กับผู้แต่งที่เป็นชาวไทยและชาวต่างชาติ 10 อันดับแรก
เมื่อเปรียบเทียบผลงานย้อนหลัง 5 ปี พบว่า มทส. มีค่า FC สูงสุดในปี 2018 รองลงมาเป็นปี 2017, 2020, 2021 และ 2019 ตามลำดับ แต่หากเรียงลำดับตามจำนวนบทความที่มีผู้เขียนเป็นพนักงาน มทส. พบว่า จำนวนบทความที่มีผู้เขียนเป็นพนักงาน มทส. ในแต่ละปีไม่แตกต่างกันมากนัก โดย ปี 2020 มีจำนวนสูงสุด 32 บทความ รายละเอียดแสดงได้ดังตารางที่ 1
ตารางที่ 1 ผลงานตีพิมพ์ในวารสารเครือ Nature Research ที่มีผู้เขียนเป็นพนักงาน มทส.
เมื่อเปรียบเทียบกับหน่วยงานในประเทศไทย (Academic, Government, Corporate, Healthcare และ NPO/NGO) ที่อยู่ในกลุ่ม Top 10 พบว่า ในช่วงการประเมินของปี 2021 โดยภาพรวม (ไม่แยกกลุ่มสาขา) มทส. อยู่ในอันดับที่ 7 ของไทย เมื่อเรียงอันดับตามค่า FC (FC=1.56) แต่หากเรียงลำดับตามจำนวนบทความที่มีผู้เขียนเป็นพนักงาน มทส. อยู่ในอันดับที่ 4 ของไทย (30 บทความ) สำหรับกลุ่มสาขา Life Sciences ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีค่า FC สูงสุด (FC=1.08) มทส. อยู่ในอันดับที่ 4 ของไทย แต่หากเรียงลำดับตามจำนวนบทความที่มีผู้เขียนเป็นพนักงาน มทส. อยู่ในอันดับที่ 7 ร่วมของไทย (3 บทความ) และกลุ่มสาขา Physical Sciences มทส. อยู่ในอันดับที่ 7 ของไทย เมื่อเรียงอันดับตามค่า FC (FC=0.42) แต่หากเรียงลำดับตามจำนวนบทความที่มีผู้เขียนเป็นพนักงาน มทส. อยู่ในอันดับที่ 2 ของไทย (26 บทความ) รายละเอียดดังตารางที่ 2 ส่วนกลุ่มสาขา Chemistry มทส. ไม่ติด Top 10 ของไทย โดยอยู่ในอันดับที่ 26 ของไทย เมื่อเรียงอันดับตามค่า FC (FC=0.06) แต่หากเรียงอันดับตามจำนวนบทความที่มีผู้เขียนเป็นพนักงาน มทส. อยู่ในอันดับที่ 19 ร่วมของไทย (2 บทความ)
ตารางที่ 2 ผลการจัดอันดับ Top 10 ของสถาบันการศึกษาไทยที่มีผลงานตีพิมพ์ในวารสารเครือ Nature Research
หมายเหตุ เรียงอันดับตามค่า FC (Fractional Count)
Nature Index มีมาตั้งแต่ปี 2015 โดยใช้ตัวชี้วัดหลัก 2 ตัวในการพิจารณาจัดอันดับ คือ
1. จำนวนบทความตีพิมพ์ที่ผู้เขียนอยู่ในหน่วยงานที่ได้รับการประเมิน (Count) ยกตัวอย่างเช่น บทความ 1 บทความ ที่มีผู้เขียน 1 คน หรือ หลายคนจาก มทส. ดังนั้น มทส. จะได้รับค่า Count เท่ากับ 1
2. จำนวนสัดส่วน/ส่วนแบ่งความเป็นเจ้าของบทความที่จัดสรรให้กับสถาบันหรือประเทศ (Fractional Count: FC) โดย 1 บทความ จะมีค่า FC เท่ากับ 1 ซึ่งถูกแบ่งให้ผู้เขียนทุกคนในบทความหนึ่งๆ ภายใต้สมมติฐานที่ว่าทุกคนมีส่วนร่วมเท่าเทียมกัน ยกตัวอย่างเช่น บทความ 1 บทความ ที่มีผู้เขียน 10 คน หมายความว่าผู้เขียนแต่ละคนได้รับค่า Fractional Count เท่ากับ 0.1
“ผลการจัดอันดับในครั้งนี้ ถือเป็นสิ่งที่น่ายินดีและน่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง แสดงให้เห็นว่า มทส. มีศักยภาพความเข้มแข็งทางด้านวิชาการ โดยเฉพาะการสร้างองค์ความรู้ใหม่ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายคงต้องร่วมกันทำงานอย่างหนักต่อไป เพื่อจะสร้างองค์ความรู้ใหม่ในทุกกลุ่มสาขาโดยมุ่งเพิ่มทั้งปริมาณและคุณภาพและนำไปสู่การสร้างนวัตกรรม เพื่อเป็นที่พึ่งของสังคมต่อไป” อธิการบดี มทส. กล่าวในที่สุด
ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.natureindex.com/country-outputs/generate/All/global/All/score
ส่วนแผนงาน/ส่วนประชาสัมพันธ์ มทส.
1 กรกฎาคม 2564
Lidyabet
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
- มทส. อันดับ 10 สถาบันอุดมศึกษาที่ชำระหนี้ กยศ. ดีที่สุดของประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 11 พฤศจิกายน 2567
- มทส. ติด Top 10 ม.ไทย ในการจัดอันดับ ม.ชั้นนำเอเชีย โดย QS World University Rankings: Asia 2025 07 พฤศจิกายน 2567
- รศ. ดร.อัญญานี คำแก้ว อาจารย์ มทส. รับทุนวิจัยลอรีอัล ประเทศไทย “เพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์” (For Women in Science) ประจำปี 2567 01 พฤศจิกายน 2567
- ตรวจพื้นที่เตรียมการรับเสด็จฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 25 ตุลาคม 2567
- มทส. ติดอันดับ 6 ร่วม ม.ชั้นนำของไทย อยู่ในกลุ่ม TOP 3 ม.ด้านเทคโนโลยี จากการจัดอันดับ THE World University Rankings 2025 09 ตุลาคม 2567
- มทส. คว้า 2 รางวัลผลงานนวัตกรรมเพื่อการพัฒนานักศึกษา ด้านสุขภาพจิตและด้านสุขภาวะ ในงานสัมมนาวิชาการด้านพัฒนานักศึกษา ปี 2567 01 ตุลาคม 2567
- มทส. เปิดตัว ฟาร์มไข่ผำต้นแบบระดับอุตสาหกรรม ขนาดกลางและใหญ่ ยกระดับและเพิ่มมูลค่าไข่ผำเพื่อการผลิตโปรตีนทางเลือกสู่ Super Food 18 กันยายน 2567
- มทส. รับรางวัลเชิดชูเกียรติ จากกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมลดโลกร้อน) 30 สิงหาคม 2567
- ขอเชิญศิษย์เก่า นักศึกษา บุคลากร ร่วมกิจกรรม คืนสู่เหย้า 34 ปี สายใย น้องพี่ เลือดสีแสดทอง ศิษย์ มทส. สัมพันธ์ 29 สิงหาคม 2567
- 34 ปี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พัฒนาสู่อนาคตที่ยั่งยืน Innovate the Future 26 กรกฎาคม 2567