สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ แทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา มทส.

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

เสด็จฯ แทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา มทส.

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔ จำนวน ๒,๖๒๑ ราย




 

วันนี้ (๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๕) เวลา ๐๙.๐๒ น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งถึงอาคารสุรพัฒน์ ๒ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา เพื่อปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔ โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน นายกสภามหาวิทยาลัย รองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย เฝ้าฯ รับเสด็จฯ

 

 

ในการนี้ มีผู้ได้รับแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์เกียรติคุณ เข้ารับพระราชทานเกียรติบัตร จำนวน ๑ ราย ได้แก่ ศาสตราจารย์กิตติเทพ เฟื่องขจร ผู้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จำนวน ๑ ราย ได้แก่ นายสมชัย ไทยสงวนวรกุล วิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (วิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์) ผู้ที่ทำคุณประโยชน์ยิ่งให้แก่มหาวิทยาลัยเข้ารับพระราชทานเข็มกิตติการทองคำ จำนวน ๑ ราย ได้แก่ นายนนทพล นิ่มสมบุญ ผู้เข้ารับพระราชทานเข็มกิตติการทองคำและโล่กิตติการ จำนวน ๒ ราย ได้แก่ มูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหมโรงแรมเอราวัณ (ศาสตราจารย์พิเศษ ไพจิตร โรจนวานิช ประธานกรรมการมูลนิธิ) และ บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน) (นางสาวเนตรชนก ไทยสงวนวรกุล ผู้แทนประธานกรรมการบริหาร)

 

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีดำเนินการตามภารกิจมาเป็นปีที่ ๓๒ โดยเปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก รวมทั้งสิ้น ๑๐๗ หลักสูตร ในกลุ่มสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยีการเกษตร เทคโนโลยีดิจิทัล เทคโนโลยีการจัดการ ภาษาอังกฤษ สาธารณสุขศาสตร์ แพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และพยาบาลศาสตร์ สำหรับปีการศึกษา ๒๕๖๔ มีผู้สำเร็จการศึกษาเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรทั้งสิ้น ๒,๖๒๑ ราย ประกอบด้วย ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้แก่ ดุษฎีบัณฑิตรุ่นที่ ๒๓ จำนวน ๔๑ ราย มหาบัณฑิตรุ่นที่ ๒๔ จำนวน ๗๔ ราย และบัณฑิตรุ่นที่ ๒๖ จำนวน ๒,๓๕๒ ราย ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันการบินพลเรือน ซึ่งเป็นสถาบันสมทบของมหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาบัณฑิตรุ่นที่ ๘ จำนวน ๕ ราย และบัณฑิตรุ่นที่ ๒๒ จำนวน ๑๔๙ ราย ในจำนวนนี้มีผู้ได้รับปริญญาเกียรตินิยมอันดับหนึ่งและได้คะแนนยอดเยี่ยมของสาขาวิชาต่าง ๆ เข้ารับพระราชทานเข็มทองคำ จำนวน ๓๒ ราย รวมทั้งผู้ได้รับรางวัลศรีปีบทอง ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับนักศึกษาที่มีผลงานและความสามารถดีเด่น เข้ารับพระราชทานโล่เกียรติยศ จำนวน ๒ ราย

 

 

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราโชวาทแก่บัณฑิต ความตอนหนึ่งว่า “การศึกษาในมหาวิทยาลัยนั้น แท้จริงมิได้เป็นการศึกษาเรียนรู้หลักวิชาแต่เพียงอย่างเดียว หากยังเป็นการฝึกฝนอบรมจิตใจ รวมทั้งความประพฤติปฏิบัติด้วย เหตุนี้ ผู้สำเร็จการศึกษาเป็นบัณฑิต นอกจากจะต้องมีความรู้ดีแล้ว จึงควรต้องมีความคิดจิตใจและความประพฤติปฏิบัติที่ดี บัณฑิตทั้งหลายต่างก็สำเร็จการศึกษาแล้วโดยทั่วกัน จึงมีหน้าที่อันสำคัญผูกพันอยู่ ที่จะต้องดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงาน อย่างผู้มีความรู้ความคิด และความประพฤติปฏิบัติที่ดีอย่างแท้จริง เพื่อสร้างสรรค์ความสำเร็จและความเจริญให้แก่ตนเอง ทั้งยังมีหน้าที่ต่อส่วนรวม คือจะต้องเป็นทั้งกำลัง ทั้งผู้นำ ในการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้ก้าวหน้ามั่นคงยิ่ง ๆ ขึ้น หากบัณฑิตจะได้ตระหนักถึงหน้าที่อันทรงคุณค่านี้ของตน แล้วร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่ทั้งนั้นให้บรรลุผลสมบูรณ์แล้ว แต่ละคนก็จะมีชีวิตที่ผาสุกรุ่งเรือง และชาติบ้านเมืองก็จะมีความเจริญยั่งยืนตลอดไป”

 

 

ส่วนประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๕


ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง